Nike เป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาชื่อดังระดับโลก ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากโดยเฉพาะ ที่เหมาะแก่การใส่ออกกำลังกาย โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาก่อตั้งโดย Bill Bowerman และ Philip Hampson Knight ด้วยประวัติมาอย่างยาวนานนี้ จึงทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมระดับโลกอย่างเช่นในปัจจุบัน
ประวัติแบรนด์ Nike
Nike เป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาสัญชาติอเมริกา ก่อตั้งโดย Bill Bowerman และ Philip Hampson Knight มีจุดเริ่มต้นมาจาก ฟิล ไนต์ นักวิ่งของมหาวิทยาลัยโอเรกอน ที่มีผลงานอย่างในการแข่งขัน NCAA Outdoor Championships ในปี 1962, 1964, 1965 และ 1970 ซึ่งเขายังทำให้ทีมชาติอเมริกาสามารถพิชิตถึง 6 เหรียญทองในโอลิมปิก และได้รู้จักกับ Bill Bowerman ซึ่งเป็นโค้ชของมหาวิทยาในขณะนั้น ด้วยทั้งคู่ต่างต้องการรองเท้าวิ่งที่มีคุณภาพเยี่ยม น้ำหนักเบา และมีความทนทาน เพื่อใส่วิ่งแข่งขัน
ปี 1962
ฟิล ไนต์ ได้มีการค้นคว้าข้อมูลรองเท้า ก็พบกับข้อมูลแบรนด์ Onitsuka Tiger Company รองเท้ากีฬาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีคุณภาพดีและราคาถูก เมื่อเขามีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน Onitsuka Tiger Company ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ชักชวนให้ Tiger นำรองเท้า Onitsuka Tiger เข้ามาจำหน่ายในอเมริกา โดยใช้ชื่อสินค้าว่า Blue Ribbon Sports หรือที่รู้จักกันในชื่อ BRS ซึ่งเป็นชื่อเดิมของแบรนด์ Nike พร้อมก่อตั้งบริษัทร่วมกับ บิลล์ บาวเวอร์แมน ในชื่อ BRS Inc.
ปี 1970
Bill Bowerman มีการทดลองทำพื้นรองเท้ายางจากเครื่องอบขนมวาฟเฟิล (Waffle) ของภรรยาเขา ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำหรับรองเท้ากีฬา ที่พื้นรองเท้าเป็นแบบที่เห็นในทุกวันนี้
ปี 1971
Bill Bowerman จัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า Nike Inc. ในปีถัดมา BRS Inc. และ Onitsuka Tiger ได้แยกบริษัทออกจากกันอันเนื่องจากความขัดแย้งกันทางธุรกิจ ในปีนี้เองได้ออกแบรนด์รองเท้าวิ่งเพื่อเจาะกลุ่มนักกีฬากรีฑาในโอลิมปิก
ในปี 1981
BRS Inc. และ Nike Inc. ได้รวมบริษัทเข้าด้วยกัน
ปี 1984
Michael Jordan นักบาสเกตบอลชื่อดังได้มาร่วมงานกับ Nike ซึ่งทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด โดยใช้ชื่อแบรนด์เป็นชื่อ “Jordan”
ปี 1997
สินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ “M.J.” แตกไลน์ออกไปโดยใช้ชื่อ “12-Star products” และ Nike ยังประสบความสำเร็จกับแคมเปญ โฆษณาชุด “Just Do It” อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าในช่วงระยะที่ผ่านมา Nike ประสบผลสำเร็จและครองใจคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก และควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมของตัวเองได้ในรูปแบบที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตอย่างแท้จริง